Monday, June 13, 2005

ฉันน่ะหรือผู้หญิงวัยป้า

ทุกวันนี้บนหน้าจอทีวี ทั้งหนัง ละคร โฆษณา หรือแม้กระทั่งตามปกนิตยสารสวยๆทั้งหลายแหล่ที่วางขายอยู่เกลื่อนแผงนั้น ล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยเด็กสาวๆวัยใสอายุตั้งแต่ สิบสองสิบสาม ไปจนถึงยี่สิบต้นๆ ออกมาอวดโฉมเป็นดารา นักร้องนางแบบกันมากมายอย่างที่จำหน้าจำชื่อกันแทบไม่ไหว ทุกคนล้วนแล้วแต่ทั้งสาวสะพรั่ง สวยสด ดูเป็นหญิงสาวเต็มตัวอยู่ในวัยที่กำลังเบ่งบานที่สุดในชีวิตกันเต็มที่ ทุกครั้งที่เห็น ฉันอดชื่นชมในความสวยงามเปล่งปลั่งของพวกเธอไม่ได้ แต่ก็ทุกครั้งอีกนั่นแหละ ที่เห็นแล้วทำให้หญิงสาววัยเลยเบญจเพสมาไม่มากมายเท่าไหร่อย่างฉันอดถอนใจไม่ได้

ทำไมนะ ทำไม พวกเธอเหล่านั้นถึงล้วนแล้วแต่อายุน้อยกว่าฉันทั้งนั้น นักร้องเด็กสาววัยสิบสาม นางเอกละครวัยสิบหก หรือแม้แต่ดาราสาวเซ็กซี่คนดังที่เป็นข่าวภาพเปลือยในฉากหนังหลุดมาเผยแพร่ในเว็บก็อายุแค่ 18 นี่ฉันเริ่มแก่แล้วจริงๆหรือนี่

ทั้งๆที่ค่าเฉลี่ยอายุของประชากรในบ้านเราสูงขึ้นกว่าแต่ก่อนมากมาย แต่ไม่รู้เพราะอะไร ค่าเฉลี่ยคำนิยามของคำว่า "แก่" สำหรับผู้หญิงในสังคมบ้านเราถึงได้แปรผกผันไปทางตรงข้าม ลดน้อยลงทุกทีๆ

เมื่อกลางๆปีที่ผ่านมา รายการเรียลิตี้โชว์ชื่อดังที่ถ่ายทอด 24 ชั่วโมงทาง UBC รายการหนึ่งที่นำผู้เข้าแข่งขันมาอยู่บ้านเดียวกัน ใช้ชีวิตฝึกฝนเพื่อตามล่าความฝันในการเป็นดารา นักร้อง พิธีกร อยู่ด้วยกันตลอดสามเดือน หนึ่งในผู้เข้าแข่งขันที่เป็นที่กล่าวขวัญมากที่สุด ถูกวิพากษ์วิจารณ์ผ่านกระทู้ต่างๆทางอินเตอร์เน็ตมากที่สุดมีทั้งคนรักและคนเกลียดอย่างเอาจริงเอาจัง เป็นหญิงสาวที่ฉันได้เห็นเพียงแว๊บๆว่าหน้าตาก็ปานกลาง น่ารักพอใช้ได้ ดูร่าเริงสดใส ประเด็นที่เธอถูกด่าถูกวิจารณ์นั้นฉันไม่ได้รับรู้อะไรด้วยหรอก เพราะฉันไม่เห็นสาระในการเฝ้าดูใครกินข้าว ร้องเพลง เต้นรำ หรือคุยกันตลอด 24 ชั่วโมง (เรื่องของเรื่องคือฉันไม่มีเงินติด UBC ต่ะหาก) แต่เรื่องที่หนึ่งเกี่ยวกับผู้แข่งขันรายนี้ที่กระทบใจฉันอย่างแรงคือ เธอถูกเด็กๆในเว็บบอร์ดเรียกว่า "ป้า"

จะไม่ให้กระทบใจ หรือแทงใจดำฉันดังฉึกได้ยังไง ในเมื่อหญิงสาวคนนั้นอายุเท่ากับฉันพอดิบพอดี!
สำหรับคนที่อายุยังไม่ถึงเลขสาม แค่เลยเบญจเพสมาไม่กี่ขวบปี หน้าตารึก็ยังไม่ได้มีริ้วรอยบ่งวัยใดๆ (ถึงแม้อาจจะไม่สวยใสขาวอมชมพูดูเป็นธรรมชาติไปบ้าง) อย่างฉันนั้นถึงวัยที่ต้องถูกเด็กมัธยมเรียกว่า "ป้า" แล้วอย่างนั้นหรือ

ฉัน และบรรดาเพื่อนๆสาวๆของฉันที่เกิดมาในช่วงเดียวกันหัวอกเดียวกัน มักจะนั่งปลงด้วยกัน เวลาเซ็งๆว่าพวกเรานั้นเหมือนถูกขโมยช่วงเวลาวัยสาวไปอย่างไรชอบกล เรื่องของเรื่องก็คือ พวกเราเติบโตขึ้นมาในยุคที่เด็กนักเรียนมัธยมนั้นยังไม่ถือว่าโตเป็นสาว แต่เรียนจบมาในสมัยที่เด็กมัธยมต้นกลายเป็นนางเอกหนัง และหญิงสาววัยทำงานนั้น ถือว่าแก่เป็นป้าไปเสียแล้ว

สมัยฉันยังเป็นเด็กๆรุ่นๆอายุสิบสองสิบสามนั้น ค่านิยมของคนยุคนั้น เด็กสาววัยรุ่น คือเด็กสาวในช่วงอายุสิบแปดขึ้นไป เป็นเด็กสาวในมหาวิทยาลัย ส่วนหญิงสาวเต็มวัยที่ถือว่าอยู่ในวัยที่สวยที่สุดนั้น คือหญิงสาววัยเริ่มทำงาน อายุยี่สิบสี่ยี่สิบห้ากำลังดี และเด็กอายุสิบสามอย่างฉัน ยังถือว่าเป็นเด็กกะโปโล ใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นตัวโคร่งที่ได้รับตกทอดมาจากพี่ชาย วิ่งไล่จับแมลง แตะบอล กระโดดหนังยางไปตามเรื่องตามราว

แต่ถึงอย่างไรฉันก็เป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ถึงจะรักในความเป็นเด็กของตัวเอง แต่ก็แอบใฝ่ฝันถึงวัยสาว วันที่จะได้เป็นเด็กวัยรุ่น ทิ้งเสื้อผ้าแบบเด็กๆมาใส่กางเกงยีนส์หรือชุดกระโปรงสวยๆกับเขาบ้างเหมือนกัน (แน่นอนฉันเคยแอบฝันอยู่บ้างว่าพอฉันเป็นวัยรุ่นฉันอาจจะสะสวยเหมือนดาราวัยรุ่นในทีวี และฉันอาจจะมีโอกาสเป็นดารากับเขาด้วยเหมือนกัน)


เวลาผ่านไป และฉันก็เติบโตขึ้นเป็นสาววัยสิบแปด น่าเสียดายที่ไม่ได้สะสวยจะพอเป็นดาราอย่างที่หวังไว้ อีกทั้งความหวังเล็กๆที่จะเป็นดาราวัยรุ่นของฉันก็ยังมีอันต้องหมดไป เมื่อฉันพบความจริงที่ว่า ดาราวัยรุ่นในละครเดี๋ยวนี้เขาเริ่มที่อายุสิบสี่สิบห้ากันแล้ว ฉันที่อายุสิบแปดในตอนนั้นกลับกลายเป็นวัยรุ่นตอนปลายไปเสียฉิบ แต่แน่นอนว่า ในสมัยเกือบๆสิบปีที่แล้ว อายุสิบแปดก็ยังไม่ถือว่าเป็นหญิงสาวเต็มตัว ฉันจึงพยายามเลิกสนใจ เลิกคิดว่าฉันสูญเสียโอกาสที่จะเป็นวัยรุ่น มัวเป็นเด็กกะโปโลอยู่ตั้งสี่ปีแน่ะ และฉันก็ใช้เวลาวัยรุ่นที่เหลืออยู่ไม่กี่ปีรอคอยเวลาที่จะเป็นหญิงสาวเต็มวัย (คงไม่ต้องบอกหรอกนะว่า ฉันยังแอบหวังว่าพอฉันอายุซักยี่สิบสี่ยี่สิบห้า ฉันจะมีอายุกำลังดีสำหรับบทนางเอกหนังไทย อาจจะมีผู้กำกับตาถึงมาเล็งเห็นในความแปลกของฉันก็เป็นได้)

แต่แล้ว ก็อย่างที่บอกไปตั้งแต่แรก ค่าเฉลี่ยของคำว่า "แก่" ในสังคมบ้านเราโดยเฉพาะสำหรับผู้หญิงนั้น มันลดลงเรื่อยๆ และเรื่อยๆ มีนักร้องที่แต่งตัวเป็นสาวสวยเต็มที่ทั้งๆอายุเพิ่งจะสิบสอง มีนางเอกที่เล่นฉากเลิฟซีนแบบถึงพริกถึงขึงตั้งแต่อายุสิบสี่ และมีคนต้องเล่นบทแม่ที่มีลูกสาวเรียนมหา'ลัยตั้งแต่อายุเยังไม่ทันจะสามสิบ!!!( เข้าใจว่าคุณแม่ในละครเรื่องนั้นต้องมีลูกตั้งแต่อายุสิบสอง ) ฉันที่อายุยี่สิบกว่าๆไปเรียบร้อยแล้วจึงหมดหวังกับการเป็นดาราวัยรุ่นไปโดยปริยาย โชคดีที่ความสนใจเรื่องอาชีพการงานของฉันมันมุ่งไปทางเรื่องอื่นเสียก่อนโดยลืมเลือนความฝันวัยเด็กที่จะเป็นนางเอกหนัง เป็นนักร้องไปเมื่อไหร่ไม่รู้ ฉันเลยไม่ต้องเจ็บใจกับเรื่องนี้มากมายนัก

อย่างที่รู้ๆกันอยู่ว่าอิทธิพลจากสื่อโทรทัศน์บ้านเราที่ส่งผลต่อคนดูนั้นเข้มข้นขนาดไหน เมื่อเห็นนางเอกละครอายุน้อยๆแต่งตัวเต็มยศราวกับเป็นสาวเต็มที่ หรือโฆษณาที่มีเด็กสาวอายุน้อยๆใส่เสื้อกล้ามสายเดี่ยวอวดผิวขาวผ่องทาโลชั่นบำรุงความงามกันตั้งแต่อายุสิบสองสิบสาม(ตอนอายุเท่านั้นฉันยังใช้แค่โลชั่นจอห์นสันสำหรับเด็กเฉพาะหน้าหนาว ทามั่งไม่ทามั่งแค่กันผิวแตกเพราะแถวบ้านฉันมันหนาวจับใจ โดยไม่รู้จักคำว่าไวท์เทนนิ่งอย่างสิ้นเชิง) บรรดาสาวน้อยในยุคนี้จึงมั่นใจเต็มที่ว่าสังคมได้บัญญัติแล้วว่าผู้หญิงอายุสิบสองสิบสามนั้น เป็นวัยรุ่น มีสิทธ์ที่จะเป็นเด็กสาวอย่างเต็มตัว และไม่น่าแปลกใจเลย ที่ผู้หญิงอายุรุ่นราวคราวเดียวกับฉันจะถูกเด็กๆเหล่านั้นขนานสรรพนามว่า "ป้า"

ใช่ว่าฉันจะไม่เห็นด้วยที่เด็กๆสาวน้อยเหล่านั้นลุกขึ้นมาสลัดคราบเด็กหญิงทิ้ง หันมาใส่เสื้อยืดรัดรูปพอดีตัว บ้างก็เสื้อกล้ามบ้างก็สายเดี่ยวตามอย่างภาพจากสื่อที่พวกเธอเห็นอยู่ทุกวี่ทุกวัน ฉันกลับเห็นว่าผู้หญิงที่รู้จักความงามของตัวเอง รู้จักตกแต่งร่างกายดูแลบุคลิกให้สดชื่นงดงามอยู่เสมอนั้นเป็นเรื่องดี ดีกว่าปล่อยให้วัยที่งดงามเต็มที่ของตัวเองผ่านไปอย่างเปล่าประโยชน์ อย่างน้อยก็ทำให้โลกนี้ดูสดใสสดชื่น ตราบใดที่การแต่งตัวยังดูสดชื่นเหมาสมกับวัยที่ดูใสสะอาด ไม่ประโคมแต่งเสียจนเว่อร์ดูเจนจัดและกร้านโลกจนเกินไป การประพฤติตัวของเด็กสาวเหล่านั้นยังอยู่ในขอบเขตที่เหมาะสม สร้างสรร และไม่ทำอะไรที่จะนำภัยมาสู่ตัวเอง


แต่ไม่ว่าฉันจะทำใจรับได้กับค่านิยมเรื่องวัยในสมัยนี้ได้ขนาดไหนก็ตาม คำว่า"ป้า" หรือ "แก่" มันก็ยังคอยแทงใจดำฉันดังฉึกอยู่ดี บ่อยๆที่ฉันนึกเสียดายเวลาที่ผ่านไปของตัวเองและอดอิจฉาตาร้อนไม่ได้เมื่อเห็นเด็กๆสาวๆแต่งตัวสวยงามสดใส ขณะที่ฉันเมื่อวัยเดียวกันนั้นสวมแต่เสื้อยืดหลวมโพรกกับกางเกงพละเก่าๆเป็นประจำ แม้แต่สมัยเป็นนักศึกษา ชุดนักศึกษาในสมัยที่ฉันเรียนอยู่นั้นก็ยังเป็นแค่เสื้อเชิ้ตขาวหลวมๆกับกระโปรงยาวเชยๆตัดตรงๆคลุมเข่า สะพายกระเป๋าเป้ธรรมดาเท่านั้น แถมฉันยังนิยมนุ่งยีนส์กับเสื้อยืดไปเรียนมากกว่าอีกต่างหาก หาใช่ชุดนักศึกษาคับติ้วพอดีตัวเป๊ะประดับนู่นนิดนี่หน่อย สะพายกระเป๋าเบรนด์เนม เต็มไปด้วยกลิ่นอายแฟชั่นอย่างสมัยนี้(สงสัยจริงๆว่าสาวๆนักศึกษาเดี๋ยวนี้เค้าพกตำรับตำรากันยังไง เพราะเท่าที่เห็นกระเป๋าที่พวกเธอหนีบอยู่ก็น่าจะใส่ได้แต่ตลับแป้ง ลิปสติก หวี และกระเป๋าตังค์ใบเล็กๆเท่านั้น) ฉันกับเพื่อนผู้หญิงวัยเดียวกันจึงมักมีความรู้สึกร่วมกันว่าวัยรุ่นแบบที่เรียกว่าวัยใสของเรานั้นหายไปอย่างลึกลับตอนที่พวกเราไม่รู้ตัวเมือนมีมนุษย์ต่างดาวมาขโมยไปยังไงอย่างงั้น จากที่เคยเอาแต่แต่งตัวเป็นเด็กๆเพราะรับรู้มาว่าตัวเองยังไม่ถึงวัยแต่งเป็นสาว แต่แล้วเมื่อรู้ตัวอีกที ฉันก็เลยวัยแต่จะแต่งตัวน่ารักแบบสาวน้อยไปเรียบร้อยโรงเรียนป้าแล้ว

เมื่อบรรดาสื่อต่างๆพากันกระหน่ำส่งภาพดาราสาวๆอายุน้อยๆแต่ล้วนดูเป็นหญิงสวยสวยงามเปล่งปลั่งออกมาให้เห็นทุกวันๆ ตอกย้ำว่า ต้องผู้หญิงแบบนี้ วัยนี้นะ คือผู้หญิงวัยสาว คือผู้หญิงที่มีศักยภาพในการที่จะสวย ดังนั้นทั้งๆที่ฉันแน่ใจว่าอายุขนาดฉันยังไม่นับว่าเป็นผู้ใหญ่เต็มที่ด้วยซ้ำ (หรือฉันคิดของฉันคนเดียวก็ไม่รู้ว่าฉันยังไม่เป็นผู้ใหญ่) และหญิงสาววัยสามสิบต้นๆที่ยังหุ่นฟิตเปรี๊ยะใบหน้าสวยงามเปล่งปลั่งนั้นยังมีอีกมากมาย แต่ฉันก็ยังถูกพายุสื่อต่างๆเหล่านั้นตอกย้ำราวกับสะกดจิตว่าฉันเริ่ม แก่ แก่ และ แก่ เวลาเดินผ่านที่ไหนๆ ที่มีกระจกเห็นเงาสะท้อนภาพตัวเองทีไร ฉันจึงมักเห็นแต่รอยถุงใต้ตาหย่อนๆอันเป็นสัญลักษณ์ของความเปล่งปลั่งที่หดหายโดดเด่นอยู่ในกระจก ลอยออกมาจากส่วนอื่นๆของใบหน้าเสียทุกทีไป

ว่าแล้ว นั่งจ้องจอคอมฯเสียนานนมเป็นชั่วโมงอย่างนี้ พรุ่งนี้เช้าถุงใต้ตาคงจะเป็นรอยชัดแจ๋วแถมมีวงช้ำๆเป็นหมีแพนด้าอีกแน่ๆ เห็นจะต้องประโคมอายครีม ตามด้วยโปะแตงกวาเย็นๆ แล้วรีบเข้านอนเร็วๆเสียแล้ว

ก็ขนาดถูกคนไม่รู้จักมักจี่มาเรียกฉันว่าพี่อย่างมั่นอกมั่นใจฉันยังเจ็บจิ๊ดๆ
ถ้าจะต้องถูกเรียก "ป้า" ด้วยอายุเท่านี้ ฉันเป็นอันไม่ยอมแน่ๆ

3 comments:

Anonymous said...

แต่อีกมุม เด็กสมัยนี้ มันก้อไวไปเยอะนะ เร็วไปอ่ะ
รับมามากจนเกินความคิดของตัวเองแย้วว

แต่(อีกที) ก้อชอบนะ หึหึ

ปล.แต่งตอนนี้ก้อยังมิสายนะ...อิอิ

Anonymous said...

พี่อุ๋ย สู้ สู้ นะค้า...

Anonymous said...

โอ่ว...อยากจะบอกว่า...เขียนดีเหลือเกิน...โดนใจ...และโดนวัยป้า...อย่างเรา