Friday, September 09, 2005

ถ้าตื่นไม่ได้ตลอดไปล่ะ!!!

จะว่ายังไงดี
อาจจะเป็นเรื่องผีๆ
หรืออาจจะแค่หายใจไม่ออกจนเก็บไปฝัน

ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาไม่เจียมสังขารหลายๆอย่างเลยเกิดอาการไซนัสอักเสบกำเริบ ปวดตะหมูกน้ำมูกไหล หายใจไม่เข้า (เชื่อเถอะมันทรมานกว่าหายใจไม่ออกเยอะ)
ที่สำคัญ เข้าโหมดหมดสติ นอนมาราธอนมาเป็นอาทิตย์ติดๆกัน บางวันก็นอนรวดราวๆ 17-18 ชั่วโมง

ล่าสุดเมื่อวานที่ผ่านมา ตื่นมาทำงานไม่ไหวจริงๆจำได้รางๆแค่ soodyodman โทรมาถามอาการตอนสายๆแต่ตอบอะไรไปจำบ้างก็ไม่ได้ พอซักราวๆเที่ยงก็สลึมสลือมาดูนาฬิกา แล้วคิดว่าอิ๊บอ๋าย... ต้องโทรบอกเจ้านาย กดโทรศัพท์ไปหาเจ้านาย แต่จำไม่ได้อีกเหมือนกันว่าบอกเจ้านายไปว่ายังไงมั่ง (เข้าใจว่าพูดรู้เรื่องดีมั้ง เพราะวันนี้ยังไม่โดนเจ้านายเฉ่งอะไร)

แล้วเวลาก็ผ่านไปๆๆๆ
ชะรอยเจ้าที่เจ้าทางจะเห็นนอนมาราธอนกินบ้านกินเมืองจนทนไม่ได้ พอเริ่มค่ำๆก็เลยเริ่มเกิดอาการแปลกๆ

เหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่น มองเห็นในห้องสลัวๆแบบบรรยากาศใกล้ๆค่ำ
แล้วจู่ๆก็มีเด็กกระโดดตุบขึ้นมานั่งทับขา แล้วตะโกนว่า

"อาอุ๋ย ตื่นได้แล้วววว"
เหลือบตาไปมองตรงปลายเท้าแล้วก็งงๆ เด็กนี่มันใคร ...ไม่ใช่หลานเรา
สัมผัสที่ขาชัดจนน่าแปลกใจ เหมือนเวลานอนๆอยู่แล้วมีของหล่นใส่แรงๆจนตกใจตื่น

ไม่ได้ตกใจอะไร จะว่าไม่กลัวก็ไม่ใช่ ไม่ได้สนด้วยว่ามีเด็กที่ไหนไม่รู้นั่งทับขาอยู่ แค่คิดในใจว่า ..ไหนๆก็ตื่นแล้วชักจะนอนนานเกินไปลุกดีกว่า....

แต่พอจะลุกกลับลุกไม่ได้ รู้สึกทั้งตัวหนัก ทั้งห้องหมุนคว้างไม่รู้ด้านไหนบน ด้านไหนล่าง พอรู้สึกว่าลุกได้กลับกลายเป็นว่าหัวกำลังทิ่มลงบนหมอนใหม่ ....ตะเกียกตะกายอยู่พักนึงจนรู้สึกว่ากำลังลุกขึ้นได้ แล้วก็

วูบ รู้สึกตัวอีกครั้ง ยังนอนอยู่บนเตียงเหมือนเดิม
เฮ้ย ตกลงเมื่อกี๊ฝันไปนี่หว่า แถมฝันว่าตื่นแล้วซะด้วย

ไม่เป็นไรแบบนี้เคยฝัน เอาใหม่ตื่นแล้ว ลุกใหม่
แล้วก็ตะเกียกตะกายลุกใหม่อีกรอบ ลุกได้แล้ว

แล้วก็ วูบ...
ตื่นมาพบตัวเองยังนอนอยู่กับที่เหมือนเดิม
อะไรฟะ ทำไมมันตื่นยากขนาดนี้

ลุกใหม่ แล้วก็วูบพบว่าเมื่อกี๊ที่คิดว่าตัวเองลุกนั้นแค่ฝันไป เป็นอย่างนี้อยู่สี่ห้ารอบ จนชักเหนื่อย
แต่ในใจก็ยังไม่ได้คิดอะไร คิดแต่จะตื่นแล้วก็เริ่มสงสัยว่ามันจะตื่นได้มั้ย

รอบสุดท้าย ลงทุนนอนนิ่งๆใจเย็นๆ ลองขยับแขนทีละข้างขยับตัวให้แน่ใจว่าขยับจริงๆไม่ได้ฝัน
ลงทุนเอื้อมมือไปเหนี่ยวขอบเตียงดึงตัวเองลุกขึ้นเต็มแรง

แล้วในที่สุด
ก็... วูบ.... รู้สึกตัวก็นอนอยู่เหมือนเดิม

เฮ้ย มันจะเกินไปแล้ว
เหลือบมองปลายเท้า เจ้าเด็กตัวดีโดดแผล็วลงไปแล้ว ถึงตอนนี้ไม่รู้คิดอะไร ยังอุตส่าห์ตะโกนเรียกเด็กคนนั้นเอาไว้อีกว่า "เดี๋ยวไอ้หนูอย่าเพิ่งไป คุยกันก่อน"
แต่สงสัยจะโชคดีที่เด็กมันไม่รอ วิ่งผลุบหายไปทางไหนก็ไม่รู้ซะงั้น

ตอนนี้ชักจะเริ่มรู้แล้วว่าคงจะตื่นไม่ได้ง่ายๆแน่ๆ
จู่ๆก็แว๊บขึ้นมาในหัวว่าสถานการณ์อย่างนี้ต้องสวดมนต์ ก็แปลกดีทั้งๆที่ยังไม่มีความคิดว่าตัวเองถูกผีอำ แต่ก็นึกขึ้นมาได้ว่าควรจะสวด ก็เอาวะเค้าให้สวดก็ลองสวด ไม่งั้นวันนี้ไม่ได้ตื่นไปกินข้าวแน่ๆ

ว่าแล้วก็เลยสวดมนต์ในใจ พนมมือก็ไม่ได้เพราะยกไม่ขึ้น พอสวดจบก็ลองลุกใหม่ คราวนี้ดันตัวเองลุกเต็มแรง
ปรากฎว่าได้ผล ตื่นพรวดแบบว่า แขนขาดีดผ้าห่มผึงลอยออกจากเตียง ลุกขึ้นมานั่งตาปริบๆ

เออตูตื่นแล้วจริงๆด้วย ค่อยยังชั่ว เหนื่อยสุดๆ
มองนาฬิกา ทุ่มกว่าๆ
นอนกินบ้านกินเมืองขนาดนี้มิน่า ผีสางเจ้าที่เจ้าทางเลยลงโทษ


....

ถึงตอนนี้ก็ยังคิดอยู่ว่าจริงๆสิ่งที่เจอมันคืออะไร
ส่วนหนึ่งคิดว่าเพราะความเจ็บป่วยทางร่างกาย
อาจจะเพราะนอนนานเกินไป
อาจจะเป็นเพราะบรรยากาศอึดอัดของรอยต่อระหว่างกลางวันกับกลางคืน
อาจเป็นเพราะสับสนระหว่างการหลับและตื่น

แต่ ... ทำไมสวดมนต์แล้วหาย
ก่อนจะสวดมนต์พยายามแทบตายทำไมไม่ตื่น

แล้วที่สำคัญ ถ้าตื่นไม่ได้ตลอดไปจะเกิดอะไรขึ้นนะ

1 comment:

Anonymous said...

ที่จริงไอ้เจ้าผีเด็กมันก็สุภาพพอใช้นะ อุตส่าห์เรียกเราว่า "อาอุ๋ย" -___-"