Tuesday, May 03, 2005

พวกเราเคลื่อนที่ไปในเวลา

เมื่อวานอ่านนิยายไปเรื่องนึง ก็นิยายธรรมดานี่แหละ ไม่ได้มีเนื้อหาพิเศษอะไรเพียงแต่ประโยคนึงในนั้นมันสะดุดใจ นักเขียนเค้าเขียนว่า
"เวลาเคลื่อนไปบ่ายคล้อยแล้ว"
จริงๆก็เป็นสำนวนทั่วไปที่เห็นใช้กันบ่อยๆ แต่ไม่รู้ทำไมหนนี้อ่านแล้วเกิดสะดุดใจขึ้นมา

การที่เราพูดว่า "เวลาเคลื่อนไป"..หรือ "ปล่อยเวลาให้เลยผ่านไป"..เป็นมุมมองที่คนเราวัดสิ่งต่างๆโดยเอาตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางรึเปล่า เหมือนความคิดสมัยยุคกลางทีเชื่อว่าโลกเป็นจุดศูนย์กลางของจักรวาล และทุกสิ่งทุกอย่างหมุนรอบตัวเราแม้กระทั่งเวลา

นึกภาพแล้วเห็นเหมือนเรายืนอยู่กับที่ แล้วก็มีเวลาต่างๆ เช้าสายบ่ายเย็น เก้าโมง บ่ายสอง สี่โมง สองทุ่ม เที่ยงคืน ตีสาม ไหลเลื่อนผ่านตัวเราไป พอนึกภาพออกมาเป็นแบบนี้แล้ว เลยรู้สึกว่ามันออกจะแปลกๆไปหน่อย

ถ้าพูดว่า เวลาเป็นนิรันดร์ พวกเราเป็นแค่เศษเสี้ยวหนึ่งในเวลาที่เป็นนิรันดร์นั้น สิ่งที่คงอยู่กับที่น่าจะเป็นเวลามากกว่า ในจินตนาการเรา เวลาเป็นเหมือนอุโมงค์ยักษ์ หรือแม่น้ำสายใหญ่ เป็นเหมือนระยะทางที่ไม่รู้จุดเริ่มต้น จุดสิ้นสุด แต่คงที่อยู่อย่างนั้น ส่วนพวกเรา เป็นเป็นชิ้นส่วนเล็กๆที่เคลื่อนที่ผ่านเวลาต่างๆไปเรื่อยๆ ทุกๆอย่างที่อยู่ในกระแสกาลเวลามีความเร็วในการเคลื่อนที่ผ่านเวลาเท่าๆกัน เพียงแต่ว่าใครจะเคลื่อนที่ไปได้ใกล้หรือไกล ควมตาย ก็เหมือนสถานีปลายทางในเวลาเท่านั้นเอง (ถ้าคิดในแง่นี้ ถ้าใช้คำว่า ถึงที่ แทนคำว่าตาย ก็ดูเข้าทีดีนะ)

แล้วเราจะมาคิดมากให้วุ่นวายทำไมเนี่ย ดูสิ ไหลผ่านเวลามาตั้งไกลงานการไม่ได้ทำพอดี -___-"

No comments: